การรักษาเนื้อไม้
ทำไมต้องมีการป้องกันรักษาเนื้อไม้
สาเหตุที่ไม้จะต้องมีการอัดน้ำยาเคมีเข้าไปเพื่อช่วยให้ไม้ทนทานต่อการผุ เปื่อย เนา จากสภาพอากาศตามฤดูกาลที่แตกต่างกัน สภาพทางชีวะวิทยาที่ต่างกัน เช่น แสงแดด ความร้อน ความเย็น ฝน น้ำค้าง หรือแมลงได้ยาวนาน โดยไม้ทั่วไปที่ไม่ได้มีการอัดน้ำยาและวางสัมผัสดินโดยตรงมีโอกาสที่จะผุพัง หรือถูกแมลงทำลายได้อย่างรวดเร็วภายใน 5 ปีขณะที่ไม้ที่ผ่านการอัดน้ำยาสามารถอยู่ได้ 30 – 40 ปี หรือยังยาวนานกว่า 50 ปีก็ยังเป็นไปได้
ข้อดีของการป้องกันรักษาเนื้อไม้
- ทำให้อายุการใช้งานของไม้ยาวนานขึ้น
- ทำ ให้นำไม้มาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้น เช่น งานภายในอาคาร งานภายนอกอาคาร พื้นที่งานใต้ดิน งานที่ต้องใช้ไม้สัมผัสพื้นโดยตรงหรือฝั่งลงในดินหรืองานที่ต้องใช้ไม้ สัมผัสน้ำโดยตรงซึ่งจะเป็นน้ำทะเลก็ได้
- ทำ ให้มีทางเลือกในการออกแบบงานไม้มากขึ้น โดยเฉพาะบางสถานที่ที่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่ความคุณสมบัติเช่นไม้ หรือใช้ในงานตบแต่งให้เกิดความสวยงามต่างๆ
ภาพแสดงการทาน้ำยารักษาเนื้อไม้
ยาป้องกันรักษาเนื้อไม้ (Wood Preservatives)
สารเคมีใช้ป้องกันรักษาเนื้อไม้ควรมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีความเป็นพิษต่อศัตรูทำลายไม้
2. มีความคงทนอยู่ในเนื้อไม้ได้นาน
3. มีความสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ได้ดี
4. ไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อเนื้อไม้
5. ไม่ทำให้โลหะเป็นสนิม
6. ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ทำการอาบน้ำยาป้องกันรักษาเนื้อไม้และผั้ที่นำไม้ที่ผ่านการอาบน้ำยาแล้วไปใช้ประโยชน์
ยาป้องกันรักษาเนื้อไม้ที่สำคัญ
1. ประเภทน้ำมัน (Tar-Oil Preservatives) เช่น
a. ครีโอโสต (Creosote)
b. โซลิกนั่ม (Solignum) ยาป้องกันประเภทนี้เหมาะสำหรับงานภายนอกที่ต้องการความคงทนอย่างมาก เช่น รางรถไฟ สะพาน เสาไฟฟ้า ท่าเรือ
2. ประเภทเกลือเคมีละลายในน้ำ (Water-Borne Preservatives) เช่น
a. เอซิดคอปเปอร์โครเมต (Acid Copper Chromate: ACC)
b. แอมโมเนียคัลคอปเปอร์อาร์เซเนต (Ammoniacal Compper Arsenate: ACA)
c. โครเมเตตคอปเปอร์อาร์เซเนต (Chromated Copper Arsenate: CCA)
d. คอปเปอร์โครมโบรอน (Copper Chrome Boron: CCB)
e. ฟลูออร์โครมอาร์เซเนตฟีนอล (Fluor Chrome Arsenate Phenol: FCAP)
น้ำยาประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้กับงานก่อสร้างทั่วไปเช่น งานโครงสร้างอาคาร งานภายนอกอาคารทั่วไป เช่น เสา รั้ว ระเบียง ฯลฯ
3. ประเภทเกลือเคมีละลายในสารละลายอื่น (Solvent Type Preservatives) เช่น
a. Tributyltinoxide (TBTO)
b. Metallic Napthenates
ภาพแสดงการทาน้ำยารักษาเนื้อไม้เพื่อปกป้องไม้จากศัตรูไม้ต่างๆ
น้ำยาประเภทนี้เหมาะสำหรับงานไม้ที่ไม่สัมผัสพื้นดินโดยตรง เช่น งานประตู หน้าต่าง ระเบียงที่ไม่สัมผัสพื้นดินโดยตรง ระแนงไม้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ภายนอกอาคารต่างๆ
งานที่จำเป็นต้องใช้ไม้ที่การป้องกัน
โดยทั่วไปคือใช้กับงานทุกชนิดที่ไม้มีการสัมผัสอากาศ สัมผัสพื้นดิน หรือสัมผัสน้ำโดยตรง
- งานโครงสร้างต่างๆและงานหลังคาไม้
- พื้นระเบียงภายนอกและภายในอาคาร
- งานผนังตกแต่งต่างๆ งานที่ใช้ไม้ห่อหุ้มวัสดุอื่นๆ
- เสาต่างๆ เช่น เสาไฟฟ้า
- สนามเด็กเล่น เช่น ของเล่นเด็ก
- งานที่ต้องใช้วัสดุสัมผัสน้ำ เช่น สะพานและงานในอุตสาหกรรมเรือ เช่น ท่อเรือ
- งานเกษตรต่างๆ เช่น ฟอร์มเลี้ยงหอยนางรม ไร่องุ่น
- ไม้หมอนรถไฟ และพื้นสำหรับรับน้ำหนักรถบรรทุก
- รั้วต่างๆ ระแนงไม้ต่างๆ
- โครงสร้างและงานตบแต่งสำหรับเรือ
ความปลอดภัยจากการใช้น้ำยาอัดเข้าสู่ไม้
โดยปกติแล้วไม้ที่ได้รับการอัดน้ำยาจะไม่มีผลร้ายต่อมนุษย์ สัตว์ รวมถึงสิ่งแวดล้อม แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการป้องกันไว้ร่วงหน้าสำหรับงานก่อสร้าง งานเฟอร์นิเจอร์ ในช่วงที่ทำการผลิตชิ้นงานหรือติดตั้งประกอบชิ้นงานต่างๆที่มีการตัดไม้และ ไสไม้ก็จะมีฝุ่นมาจากไม้ ดังนั้นจะต้องมีผ้าหรือหน้ากากปิดจมูกเพื่อไม่ให้หายใจฝุ่นละอองเหล่านี้ เข้าไปซึ่งกระบวนการตัดไม้หรือไสไม้ก็จะเกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถาน ที่ก่อสร้างเท่านั้น แต่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆสำหรับอาคาร เฟอร์นิเจอร์ รั้ว ระแนง พื้นระเบียง ฯลฯ เพราะเป็นส่วนของชิ้นงานไม้ที่ไม่ได้มีการเลื่อย ตัด หรือ ไสไม้อีกแล้ว
นอกจากนี้การนำเศษไม้หรือชิ้นงานไม้ที่ไม่ใช้แล้วไปเผานั้นยังต้องควรมีสถาน ที่เก็บกักไม่ให้อากาศภายในตู้ที่ใช้เผากระจายออกไป ส่วนการนำเศษไม้ไปทิ้งนั้นถ้าเป็นไม้ชิ้นเล็กๆจำนวนไม่มากก็สามารถทิ้งสู่ ถึงขยะทั่วไปในสถานที่ต่างๆได้ แต่ถ้าเป็นจำนวนมากจะต้องมีการนำไปทิ้งในที่ที่เหมาะสม
Credit http://www.baannatura.com
เข้าชม :
8011
|